ถ้าคุณมีปัญหาเหล่านี้ ฟิลเลอร์ช่วยได้!
☑ ผู้ที่มีริ้วรอย,ร่องลึก,ร่องแก้ม
☑ อยากปรับรูปหน้า
☑ เติมเต็มริ้วรอย
☑ ใต้ตา
☑ เติมเต็มหลุมแผลเป็น
☑ เติมเนื้อแก้ม
☑ หน้าผาก
☑ ขมับ
☑ คาง
☑ เติมริมฝีปาก
ผลลัพธ์การรักษามากกว่า 50,000เคส อันดับ 1 โคราช โดยคุณหมอกุ้ง
*ผลลัพท์ขึ้นอยู่เฉพาะแต่ละบุคคล
หน้าเรียวใครๆ ก็ต้องนึกถึงเรา ไม่ว่าคุณจะรูปหน้าแบบไหน
คุณหมอจะออกแบบให้เหมาะกับคุณ ด้วยการใช้นวัตกรรมต่างๆ มาผสมผสานเข้าด้วยกัน และที่สำคัญวางใจถึงมาตรฐานและ ความปลอดภัย ได้ 100%
คำถามยอดฮิต เรื่องใต้ตา ที่ใครๆ ก็อยากรู้เทคนิคสวยใต้ตาทันที ว่าทำอย่างไร ให้สวย ดูสว่าง และดูอ่อนวัยลง
หมอกุ้งมาบอกเทคนิคสวย ๆ กับ คุณอั้ม กูรูด้านความงาม ที่ไม่อยากปกปิดใต้ตาให้หนาอีกต่อไป มาดูกันจ้า ผู้ชายก็ใต้ตาสวยได้นะจ้ะ
✅ฟิลเลอร์ คืออะไร
ฟิลเลอร์ คือ สารที่ฉีดเพื่อช่วยในการเติมเต็มใบหน้า เพื่อทำให้ริ้วรอยดูเติมเต็มขึ้น รอยหมองคล้ำดูจางลง แก้ไขโครงสร้างใต้ผิวหนัง ทำให้หน้าดูเด็กขึ้น
โดยฟิลเลอร์เป็นสารที่สังเคราะห์มาจาก Hyaluronic Acid หรือเรียกสั้นๆว่า HA ซึ่งเป็นสารโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) หรือ น้ำตาลเชิงซ้อน สร้างขึ้นเลียนแบบสารที่มีตามธรรมชาติที่มีอยู่แล้วในร่างกายของมนุษย์เรา โดยสารกลุ่มนี้จะมีอยู่มากในชั้นผิวหนังและกระดูกอ่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของคอลลาเจนนั่นเอง
ซึ่งสามารถสลายได้หมดไม่เป็นอันตราย❌ต่อร่างกาย แต่ต้องเป็นของแท้เท่านั้น✔️
โดยเมื่อแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ลงไปใต้ผิวหนัง สาร HA ที่อยู่ในฟิลเลอร์ จะดูดซับน้ำจากเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆ เเล้วขยายตัวขึ้นหลังฉีด ส่งผลให้ใบหน้าบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เต่งตึงขึ้น ดูมีน้ำมีนวล อีกทั้งยังเป็นการเติมเส้นใยคอลลาเจนที่หายไป ให้ผิวนั้นดูอ่อนเยาว์ ริ้วรอยร่องลึกดูตื้นขึ้น ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
ในปัจจุบันนี้ฟิลเลอร์ไม่ได้ทำหน้าที่เพียงแค่เติมเต็มในส่วนต่างๆ แต่ยังมีการใช้ฟิลเลอร์เพื่อปรับสภาพผิว ให้ผิวนั้นอุ้มน้ำ ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น ใบหน้าดูฉ่ำวาวขึ้นอีกด้วย
✅ ประเภทของฟิลเลอร์
ฟิลเลอร์หรือสารเติมเต็มแบ่งง่ายๆ ออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ด้วยกันค่ะ
1. Temporary (แบบชั่วคราว)
ฟิลเลอร์แบบชั่วคราว อยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 2 ปี
สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ
มีความปลอดภัยสูง
เป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน
เช่น ฟิลเลอร์กลุ่ม ไฮยารูรอนิกแอซิด Hyaluronic Acid หรือ HA ที่เรารู้จักกัน
2. Semi Permanent (แบบกึ่งถาวร)
ฟิลเลอร์แบบกึ่งถาวร
สามารถอยู่ได้นานประมาณ 2-5 ปี ยาวนานกว่าแบบแรก
มีความปลอดภัยรองลงมาจากแบบแรก
เช่น แคลเซียมฟิลเลอร์ ที่มีส่วนผสมของแคลเซียม ไฮดรอกซิลอะพาไทต์ (Hydroxyapatite)
แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้รักษาในประเทศไทย เนื่องจากเมื่อเกิดผลข้างเคียงหลังการรักษาจะสามารถทำการแก้ไขได้ยากกว่าสารเติมเต็มในกลุ่มที่ย่อยสลายได้
3. Permanent (แบบถาวร)
ฟิลเลอร์แบบถาวร
เป็นสารเติมเต็มพวก ซิลิโคน หรือ พาราฟิน หลังฉีดไปแล้วผิวจะไม่สามารถดูดซึมฟิลเลอร์ชนิดนี้ได้ ทำให้คงค้างอยู่ในชั้นผิวของเรา
โดยไม่สามารถสลายไปตามธรรมชาติ
มีผลข้างเคียงในระยะยาว เช่น ฟิลเลอร์ไหล ฟิลเลอร์ย้อยผิดรูปนั่นเอง
ไม่แนะนำให้ฉีดสารเติมเต็มชนิดนี้ เพราะหากต้องการนำออก อาจจะไม่สามารถนำออกได้หมด ซึ่งเกิดอันตรายในระยะยาวแก่ร่างกายเราได้
✅ ฉีดฟิลเลอร์ อันตรายหรือไม่
HA ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มที่ได้รับการรับรองโดยองค์การอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ FDA จุดประสงค์ของการใช้ฟิลเลอร์ คือเพื่อเติมเต็มข้อบกพร่องบริเวณใบหน้า เมื่อฟิลเลอร์เข้าสู่ร่างกายจะดูดซับน้ำจากภายในร่างกาย และขยายทำให้บริเวณที่ถูกฉีดดูเต็มขึ้น
ฟิลเลอร์ แต่ละยี่ห้อ แม้จะเป็น hyaluronic acid เหมือนกัน แต่ด้วยเทคโนโลยีและขั้นตอนในการผลิตที่แตกต่างกัน จึงทำให้เกิดคุณสมบัติทางกายภาพที่แตกต่างกัน ฟิลเลอร์แต่ละรุ่นเหมาะกับการใช้ฉีดในจุดต่างๆของใบหน้าไม่เหมือนกัน อ่านเพิ่มเติม ยี่ห้อฟิลเลอร์ในประเทศไทย
ซึ่งโดยปกติเมื่อเราไปพบแพทย์เพื่อฉีดฟิลเลอร์ แพทย์จะเป็นผู้แนะนำว่าผิวของเราเหมาะกับฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนรุ่นไหน ซึ่งส่วนหนึ่งที่สำคัญ ก็ขึ้นกับความถนัดและเทคนิคการฉีดของหมอแต่ละคนด้วยนะคะ
สิ่งที่จำเป็นอย่างมาก คือ
✔️จะต้องเป็นแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
✔️รู้เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องเหมาะสม ที่สามารถวิเคราะห์ปริมาณยา
✔️ตำแหน่งที่ฉีดได้แม่นยำ
✔️สถานพยาบาลต้องมีความน่าเชื่อถือ ฉีดในสถานพยาบาลที่มีมาตรฐานได้รับอนุญาตให้ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย
✅ ตำแหน่งยอดฮิตที่นิยมฉีดฟิลเลอร์
* ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
* ฉีดฟิลเลอร์คาง
* ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม / แก้มตอบ
* ฉีดฟิลเลอร์จมูก
* ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
* ฉีดฟิลเลอร์ปาก
* ยกหน้า หรือ lifting
✅ ฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละตำแหน่ง ต้องฉีดปริมาณเท่าไหร่
การฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่งนั้น ใช้ฟิลเลอร์ในการรักษาไม่เท่ากัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาบนใบหน้าของคนไข้แต่ละคน โดยแพทย์จะประเมินว่าในแต่ละตำแหน่ง ใช้ปริมาณฟิลเลอร์เท่าไหร่จึงจะเพียงพอ โดยรวมแล้วขึ้นอยู่กับสภาพผิวของคนไข้และปัญหาที่จะทำการแก้ไขในบริเวณนั้นๆ ด้วย
* คาง 1-2 ml.
* ปากอวบอิ่ม 1-2 ml.
* ร่องแก้ม 1-2 ml.
* เติมแก้ม แก้มตอบ 2-4 ml.
* เติมใต้ตา 1-2 ml.
* ขมับ 1-3 ml.
* หน้าผาก 3-6 ml
* ร่องใต้มุมปาก 1-2 ml.
✅ ฟิลเลอร์ที่กรวิกกาคลินิก เราใช้แบรนด์ยุโรป มีดังนี้
1 . ฟิลเลอร์(สารเติมเต็ม) จากสวีเดน เป็นฟิลเลอร์อีก 1 ตัวที่ได้รับความนิยมจากทั่วโลก การันตีจากอย FDA อเมริกา และ CE MARKS จากยุโรป
เนื้อเนียน ฉีดง่าย เหมาะกับบุคคลที่ผิวบาง
มีมากมายหลายรุ่นให้เลือกใช้กับแต่ละตำแหน่งปัญหาเช่นกัน อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 12-24 เดือน
2 ฟิลเลอร์(สารเติมเต็ม) จากสวิสเซอร์แลนด์ ได้รับความนิยมอย่างมาก
เพราะราคาไม่แพงจับต้องได้ ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM Technology ซึ่งเป็นนวัตกรรมการผลิตพิเศษ ทำให้ได้เนื้อเจลที่มีความเรียบเนียน กลืนกับผิวหน้าได้ดี สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกสภาพผิว มี 4 รุ่นให้เลือกใช้
✅ท่านสามารถขอตรวจสอบก่อนได้รับการฉีดฟิลเลอร์ ได้ทุกครั้ง
✔️เราสามารถขอเอกสารกำกับยา ของฟิลเลอร์ที่เราฉีดได้ โดยเอกสารกำกับยาที่ถูกต้องจะต้องเป็นเอกสารกำกับยาภาษาไทยเท่านั้น เพราะแปลว่าได้รับการรับรอง และตรวจสอบมาตรฐานโดยองค์การอาหารและยาประเทศไทย
✔️ขอกล่องกลับบ้านได้ และขอให้แกะให้ดูก่อนใช้ได้เลยค่ะ
✅ระยะเวลาของฟิลเลอร์ อยู่ได้นานแค่ไหน
ส่วนใหญ่โดยมาตรฐานของฟิลเลอร์แล้ว จะมีอายุของตัวยาอยู่ได้ 12-18 เดือน ขึ้นกับปริมาณความเข้มข้นของ Hyaluronic Acid และเทคโนโลยีการผลิต ที่ได้รับมาตรฐานการรับรองจากองค์การอาหารและยา เป็นสารที่เลียนแบบสารที่มีตามธรรมชาติ
สามารถย่อยสลายได้เอง ตามกระบวนการทางธรรมชาติของร่างกายโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง แต่สิ่งที่ควรระวังคือ หากเป็นฟิลเลอร์ปลอม หรือ ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน สารเหล่านี้จะไม่สามารถย่อยสลายไปได้เอง