ร้อยไหมคืออะไร

ร้อยไหม คืออะไร ทำไมถึงได้รับความสนใจ จริง ๆ แล้วการร้อยไหม เป็นหนึ่งในนวัตกรรมเสริมความงาม ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน ช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึง ทำให้ผิวหน้าดูอ่อนกว่าวัยโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด และมีค่าใช้จ่ายไม่สูง

การร้อยไหม คือ การใช้ไหมละลาย (ปัจจุบันนิยมใช้ไหมก้างปลาที่มีเงี่ยง หรือไหมโครงตาข่าย) โดยการร้อยไหม Thread Lifting เป็นการนำไหมเข้าไปในชั้นผิวหนังโดยใช้เข็มนำเส้นไหม ซึ่งถ้าร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง ผิวก็จะถูกเงี่ยงเกี่ยวขึ้นมาตามเส้นไหมในทิศทางที่ร้อยไหมเข้าไป คล้าย ๆ ตะขอเกี่ยว และบริเวณนั้นจะเกิดการสร้างคอลลาเจนดีขึ้นมาทดแทนที่หายไป

Tesslift soft thread

ไหม TessLift Soft (ไหมโครงตาข่าย) คืออะไรไหมโครงตาข่าย TessLift Soft เป็นไหมละลาย ที่สามารถย่อยสลายได้โดยกระบวนการธรรมชาติภายในร่างกาย (Absorbable Polydioxanone – PDO) ที่แตกต่างจากไหมร้อยหน้าโดยทั่วไปในตลาดเมืองไทยเป็นอย่างมาก โดยจะมีเส้นใยโครงตาข่าย 360 องศา 1 เส้น ล้อมรอบด้วย ไหมเงี่ยงรอบไหมตาข่าย 360 องศา อีกเส้นนึง ทำให้ไหมโครงตาข่ายเป็นเส้นไหมที่ประกอไปด้วยไหมโครงตาข่าย และไหมเงี่ยง ในเส้นเดียวกัน ซึ่งจะมีผลทำให้เกิดการกระตุ้นให้เนื้อเยื่อบริเวณที่ร้อยไหม เจริญเติบโตเข้าไปในรูของไหมโครงตาข่าย

ผลลัพธ์คงสภาพอยู่ได้ยาวนานถึง 2 ปี เนื่องจากวัสดุมีความแข็งแรง เงี่ยงไหมแบบพิเศษมี 2 ชั้น ด้านนอกจะเป็นลักษณะตาข่าย (Mesh) ล้อมรอบตัวไหม แบบ 360 องศา เพื่อให้กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวได้ตลอดทั้งเส้นไหม และด้านในเป็นเงี่ยงแบบหล่อมีความแข็งแรงวนรอบตัวเส้นไหม ทำให้ยึดเกาะกับผิวได้แน่น

เปรียบเทียบเหมือนกับการทำหัตถการ 1  อย่าง แต่ได้ผลลัพธ์ 2 อย่างทั้งยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวในครั้งเดียว ถือว่าค่อนข้างคุ้มค่า และเป็นไหมที่ปัจจุบันได้รับความนิยมสูงในวงการแพทย์

ไหมโครงตาข่าย (TESSLIFT) เป็นไหมที่มีจุดเด่นแตกต่างจากไหมหลายๆประเภท นอกจากเป็นไหมที่ช่วยยกกระชับได้ดีแล้ว ยังสามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนทำให้ผิวฟูขึ้นได้ โดยผ่านการรับรองจาก อย.ไทย, CE Mark และ KFDA (อย.เกาหลี)สามารถสลายได้เองมีความปลอดภัยสูง

การร้อยไหม เหมาะกับใคร ?

• ผู้ที่ใบหน้าไม่ได้สัดส่วน ไม่มีมิติ ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวมากขึ้น
• ผู้ที่มีแก้มหย่อนคล้อย แก้มห้อย ส่วนใหญ่ปัญหานี้จะเกิดกับคนที่เริ่มมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป (Older Skin) เนื่องจากจำนวน Elastin ในชั้นผิวลดน้อยลง
• ผู้ที่ยังมีอายุไม่เยอะ (Younger Skin) แต่รูปหน้ามีความหย่อนคล้อย หรือ กรอบหน้าไม่ชัด
  กรณีผิวหนังหย่อนคล้อยมากๆ และมีการยุบของผิวตามวัย การร้อยไหมเพียงอย่างเดียวอาจไม่ช่วยลดความหย่อนคล้อยได้ทั้งหมด สามารถร้อยไหมร่วมกับทำหัตถการอื่นๆ ได้ เช่น ฟิลเลอร์ หรือ เครื่องยกกระชับร่วมด้วยเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

โรคหรือภาวะที่ไม่แนะนำให้เข้ารับการร้อยไหม

• โรคแพ้ภูมิตัวเอง
• ไวรัสตับอักเสบ บี ไวรัสตับอักเสบ ซี
• ติดเชื้อเอชไอวี
• หญิงตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร
• กำลังใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด มีภาวะติดเชื้อ

ก่อนร้อยไหมโครงตาข่ายเตรียมตัวอย่างไร ?

• งดรับประทานวิตามินและอาหารเสริมต่างๆ เช่น วิตามิน E, Collagen ใบแปะก๊วย น้ำมันตับปลา ก่อนร้อยไหมประมาณ 3 – 7 วัน
• งดกลุ่มยาจำพวกแอสไพรินและยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs ในช่วงก่อนฉีด 7 วัน
• สระผมก่อนที่จะมาร้อยไหมเพราะบริเวณขมับจะเป็นทางไหมเข้าจะมีพลาสเตอร์ปิดแผลไว้ให้งดโดนน้ำ 1-2 วัน
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนมาร้อยไหม 1 วัน เพราะแอลกอฮอล์เป็นสิ่งกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดทำให้เลือดออกง่ายเวลาร้อยไหม อาจเกิดอาการบวมช้ำได้
• หากมีนัดทำฟัน ให้ทำฟันก่อนมาร้อยไหมเพราะหลังร้อยไหมต้องงดอ้าปากกว้างๆเพื่อไม่ให้ไหมเคลื่อน
• แจ้งประวัติการแพ้ยาเช่น แพ้ยาชาแบบฉีด แพ้ยาชาแบบทา หากมีอาการแพ้ยาต่างๆ จะต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบก่อนทุกครั้ง

วิธีการดูแลหลังร้อยไหม

• ประคบเย็น หรือ ประคบน้ำแข็งตามแนวการร้อยไหม 3วันแรก
• รูแผลไหมเข้างดโดนน้ำ ครีม เครื่องสำอาง 1- 2วัน
• งดการขยับใบหน้าแรงๆ กดนวดคลึงใบหน้า 4 สัปดาห์
• ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
• สังเกตอาการตัวเองหลังร้อยไหม หากมีความผิดปกติ เช่น มีอาการบวมหรือเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป, ผิวแดงขึ้นสัมผัสแล้วอุ่นๆ หรือ ยังคงมาอาการชา ปากเบี้ยวแม้ยาชาหมดฤทธิ์แล้ว เป็นต้น หากพบอาการดังกล่าวให้ติดต่อเพื่อพบแพทย์ผู้ทำการรักษาทันที

ผลลัพธ์การรักษา Thread Code